ตามปกติแกงไตปลาที่เห็นกันบ่อยๆในท้องตลาดมักเป็นแกงในแบบคล้ายๆแกงป่า คือน้ำแกงจะใช้น้ำเปล่าแล้วละลายไตปลากับน้ำพริกแกงลงไป ใส่ปลาย่างและผักต่างๆ แต่ในแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานีและอาจรวมไปถึงจังหวัดไกล้เคียง มีการแกงไตปลาอีกแบบหนึ่งคือ "แกงไตปลาแบบใส่กะทิ" การปรุงแกงไตปลาแบบนี้ก็เหมือนกับแกงไตปลาแบบแรกนั่นหละค่ะ เพียงแต่เราใช้กะทิแทนน้ำเปล่า จึงทำให้แกงไตปลาแบบนี้มีรสชาติที่นุ่มนวลกว่าแบบแรก เนื่องจากได้ความมันจากกะทิมาช่วยทำให้รสชาตินุ่มนวลขึ้น
เครื่องปรุง มีปลาโอย่าง 1 ตัว น้ำพริกแกงเผ็ด 100 กรัม ไตปลาแบบขวด 1 ขวด (ใช้จริง 3/4 ขวด) มะพร้าวขูด ครึ่งก.ก.
ผักที่ใช้ในแกงไตปลา มีมะเขือเปราะ ฟักทอง หน่อไม้ต้ม ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด พริกชื้ฟ้าเม็ดใหญ่ แต่วันนี้เจ้าของบล็อกหาผักได้แค่สองอย่างคือ มะเขือ กับ ฟักทอง ฤดูแล้งผักหายากและมีราคาแพงค่ะ (โทษลมโทษแล้งไปละกาน 555)
แกะเนื้อปลาย่างออกเป็นชิ้นๆ เอาก้างออกให้หมด ให้ชิ้นใหญ่หน่อยนะคะ เพราะถ้าแกงแล้วกินไม่หมดในมื้อเดียวเราต้องอุ่น พออุ่นหลายๆครั้งเนื้อปลาะจะเละ
ผักทั้งสองอย่างล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆตามภาพ ฟักทองเกลาเปลือกออกบ้างก็ได้ค่ะจะได้ไม่แข็งหั่นให้ชิ้นใหญ่นิดนึงค่ะ ส่วนมะเขือเปราะผ่าซีกครั้งเดียวพอ แต่ถ้าลูกใหญ่มากก็ผ่าสองครั้งได้ มะเขือผ่าแล้วแช่น้ำไว้ก่อนนะคะ ไม่งั้นจะดำ เตรียมผักเสร็จแล้วก็มาคั้นกะทิกันค่ะ คั้นครั้งแรกใส่น้ำประมาณ 1 ถ้วยตวง กรองแล้วจะได้หัวกะทิแยกไว้ก่อน จากนั้นก็คั้นอีกสองครั้งใส่น้ำครั้งละ 1 1/2 ถ้วยตวง จะได้หางกะทิประมาณ 3 ถ้วยตวงค่ะ
เครื่องปรุงทั้งหมดเตรียมพร้อมแล้วก็ลงมือแกงกันได้เลย เจ้าของบล็อกไม่มีพริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่ ใช้เม็ดเล็กแทนนะคะ ล้างให้สะอาดแล้วบุบพอแตกพักไว้ก่อน
เอาหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟ รอให้เดือด ใส่ไตปลาลงไปครึ่งขวดก่อนนะคะ เผื่อว่าไตปลาจะเค็มมาก ถ้าเค็มไม่พอค่อยเติมทีหลังได้ ใส่ไตปลาลงไปแล้วอย่าเพิ่งใช้ช้อนคนนะคะไม่งั้นจะคาว ต้องรอให้เดือดก่อนจึงคนได้

จากนั้นก็ใส่น้ำพริกแกงลงไป คนให้น้ำพริกแกงละลายค่ะ ทิ้งให้เดือดอีกครั้งใส่ฟักทองลงไปก่อน เพราะสุกยากกว่ามะเขือ
ลดไฟให้แรงปานกลาง ต้มฟักทองไว้สัก 5 นาทีค่ะ ระหว่างนั้นก็ใช้ทัพพีคนบ้าง อย่าให้ก้นหม้อไหม้เดี๋ยวจะไม่อร่อย ^_^
พอฟักทองใกล้จะสุก ใส่เนื้อปลาที่แกะไว้กับมะเขือลงไป ต้มต่อสัก 2-3 นาทีค่ะ
พอมะเขือใกล้จะสุกใส่หัวกะทิลงไป ใช้ทัพพีคนแล้วชิมรสดูให้รสชาติออกเค็มๆ มันๆค่ะ ถ้ายังไม่เค็มจะใส่ไตปลาเพิ่มต้องรอให้น้ำแกงเดือดก่อนจึงใส่ไตปลาลงไป เจ้าของบล็อกใส่เพิ่มอีกครึ่งหนึ่งของครึ่งขวดที่เหลือค่ะ อย่าลืมนะคะ ใส่ไตปลาแล้วอย่าเพิ่งคนต้องให้น้ำเดือดอีกครั้งจึงใช้ทัพพีคนได้
คนจนทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟได้เลยค่ะ เพราะเมื่อเราใส่หัวกะทิลงไปแล้วจะไม่เคี่ยวนานเดี๋ยวกะทิจะแตกมัน
ปิดไฟแล้วเอาพริกชี้ฟ้าที่พักไว้ใส่ลงไป ถ้ามีใบมะกรูดก็ฉีกใส่ลงไปด้วยนะคะ แล้วก็ตักเสิร์ฟได้เลย
แกงไตปลาถ้าจะกินให้อร่อยต้องมีผักสดเยะอๆค่ะ แล้วก็อาจจะมีไข่เจียวอีกสักจานเท่านี้ก็อร่อยจนลืมอิ่มแล้วเน๊าะ! แกงไตปลาใส่กะทิแบบนี้ยังใช้เป็นน้ำยากินกับขนมจีนได้อีกด้วย อร่อยไม่แพ้น้ำยาแกงเขียวหวานไก่ค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาชม กลับมาพบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น