วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

แกงไตปลาแบบใส่กะทิ


ตามปกติแกงไตปลาที่เห็นกันบ่อยๆในท้องตลาดมักเป็นแกงในแบบคล้ายๆแกงป่า  คือน้ำแกงจะใช้น้ำเปล่าแล้วละลายไตปลากับน้ำพริกแกงลงไป  ใส่ปลาย่างและผักต่างๆ  แต่ในแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานีและอาจรวมไปถึงจังหวัดไกล้เคียง  มีการแกงไตปลาอีกแบบหนึ่งคือ "แกงไตปลาแบบใส่กะทิ"  การปรุงแกงไตปลาแบบนี้ก็เหมือนกับแกงไตปลาแบบแรกนั่นหละค่ะ  เพียงแต่เราใช้กะทิแทนน้ำเปล่า  จึงทำให้แกงไตปลาแบบนี้มีรสชาติที่นุ่มนวลกว่าแบบแรก เนื่องจากได้ความมันจากกะทิมาช่วยทำให้รสชาตินุ่มนวลขึ้น

   
 


เครื่องปรุง  มีปลาโอย่าง  1 ตัว  น้ำพริกแกงเผ็ด  100  กรัม  ไตปลาแบบขวด  1  ขวด (ใช้จริง 3/4 ขวด)  มะพร้าวขูด  ครึ่งก.ก.  





ผักที่ใช้ในแกงไตปลา มีมะเขือเปราะ  ฟักทอง หน่อไม้ต้ม ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด พริกชื้ฟ้าเม็ดใหญ่  แต่วันนี้เจ้าของบล็อกหาผักได้แค่สองอย่างคือ มะเขือ กับ ฟักทอง  ฤดูแล้งผักหายากและมีราคาแพงค่ะ  (โทษลมโทษแล้งไปละกาน  555)





แกะเนื้อปลาย่างออกเป็นชิ้นๆ เอาก้างออกให้หมด  ให้ชิ้นใหญ่หน่อยนะคะ  เพราะถ้าแกงแล้วกินไม่หมดในมื้อเดียวเราต้องอุ่น พออุ่นหลายๆครั้งเนื้อปลาะจะเละ



 

ผักทั้งสองอย่างล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆตามภาพ ฟักทองเกลาเปลือกออกบ้างก็ได้ค่ะจะได้ไม่แข็งหั่นให้ชิ้นใหญ่นิดนึงค่ะ   ส่วนมะเขือเปราะผ่าซีกครั้งเดียวพอ แต่ถ้าลูกใหญ่มากก็ผ่าสองครั้งได้  มะเขือผ่าแล้วแช่น้ำไว้ก่อนนะคะ ไม่งั้นจะดำ   เตรียมผักเสร็จแล้วก็มาคั้นกะทิกันค่ะ  คั้นครั้งแรกใส่น้ำประมาณ 1  ถ้วยตวง  กรองแล้วจะได้หัวกะทิแยกไว้ก่อน  จากนั้นก็คั้นอีกสองครั้งใส่น้ำครั้งละ  1  1/2  ถ้วยตวง  จะได้หางกะทิประมาณ  3 ถ้วยตวงค่ะ



 

เครื่องปรุงทั้งหมดเตรียมพร้อมแล้วก็ลงมือแกงกันได้เลย  เจ้าของบล็อกไม่มีพริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่ ใช้เม็ดเล็กแทนนะคะ  ล้างให้สะอาดแล้วบุบพอแตกพักไว้ก่อน



เอาหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟ รอให้เดือด ใส่ไตปลาลงไปครึ่งขวดก่อนนะคะ  เผื่อว่าไตปลาจะเค็มมาก  ถ้าเค็มไม่พอค่อยเติมทีหลังได้  ใส่ไตปลาลงไปแล้วอย่าเพิ่งใช้ช้อนคนนะคะไม่งั้นจะคาว ต้องรอให้เดือดก่อนจึงคนได้ 






จากนั้นก็ใส่น้ำพริกแกงลงไป  คนให้น้ำพริกแกงละลายค่ะ  ทิ้งให้เดือดอีกครั้งใส่ฟักทองลงไปก่อน เพราะสุกยากกว่ามะเขือ





ลดไฟให้แรงปานกลาง ต้มฟักทองไว้สัก  5  นาทีค่ะ  ระหว่างนั้นก็ใช้ทัพพีคนบ้าง อย่าให้ก้นหม้อไหม้เดี๋ยวจะไม่อร่อย ^_^






พอฟักทองใกล้จะสุก  ใส่เนื้อปลาที่แกะไว้กับมะเขือลงไป  ต้มต่อสัก 2-3 นาทีค่ะ  






พอมะเขือใกล้จะสุกใส่หัวกะทิลงไป ใช้ทัพพีคนแล้วชิมรสดูให้รสชาติออกเค็มๆ มันๆค่ะ  ถ้ายังไม่เค็มจะใส่ไตปลาเพิ่มต้องรอให้น้ำแกงเดือดก่อนจึงใส่ไตปลาลงไป  เจ้าของบล็อกใส่เพิ่มอีกครึ่งหนึ่งของครึ่งขวดที่เหลือค่ะ อย่าลืมนะคะ ใส่ไตปลาแล้วอย่าเพิ่งคนต้องให้น้ำเดือดอีกครั้งจึงใช้ทัพพีคนได้ 






คนจนทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟได้เลยค่ะ  เพราะเมื่อเราใส่หัวกะทิลงไปแล้วจะไม่เคี่ยวนานเดี๋ยวกะทิจะแตกมัน 






ปิดไฟแล้วเอาพริกชี้ฟ้าที่พักไว้ใส่ลงไป  ถ้ามีใบมะกรูดก็ฉีกใส่ลงไปด้วยนะคะ  แล้วก็ตักเสิร์ฟได้เลย















แกงไตปลาถ้าจะกินให้อร่อยต้องมีผักสดเยะอๆค่ะ  แล้วก็อาจจะมีไข่เจียวอีกสักจานเท่านี้ก็อร่อยจนลืมอิ่มแล้วเน๊าะ!  แกงไตปลาใส่กะทิแบบนี้ยังใช้เป็นน้ำยากินกับขนมจีนได้อีกด้วย  อร่อยไม่แพ้น้ำยาแกงเขียวหวานไก่ค่ะ   สุดท้ายนี้ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาชม กลับมาพบกันใหม่คราวหน้า  สวัสดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น