ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2539 เพื่อเป็นพระราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวจังหวัดสุราษฏร์ธานี ออกแบบโดยคณะช่างจากกรมศิลปากร รูปแบบของสถาปัตยกรรมเป็นแบบศรีวิชัย
ตัวองค์ศาลหลักเมืองประกอบด้วยเจดีย์ประธานเป็นรูประฆังคว่ำ มีเจดีย์บริวารเป็นรุประฆังคว่ำ 4 มุมลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆ อีก 2 ชั้น มุมฐานเจดีย์ทั้ง 4 มุม ตกแต่งปูนปั้นรูปพญานาค ตัวองค์สาลหลักเมืองมีขนาดภายในกว่าง 6 x 6 เมตร ทางเข้าองค์ศาลทำเป็นซุ้มจตุรมุข ตรงหลังคาของซุ้มจตุรมุขตกแต่งด้วยปูนปั้นรูปราหูอมจันทร์ สถาปัตยกรรมของตัวองค์ศาลหลักเมืองเป็นแบบศรีวิชัย นำเค้าโครงมาจากเจดีย์ของวัดพระบรมธาตุไชยา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางศิลปกรรมมาเป็นแม่แบบ
ก่อนขึ้นไปสักการะศาลหลักเมือง ซื้อเครืองสักการะกันก่อนค่ะ ชุดที่เห็นในภาพนี้ทำบุญแล้วแต่ศรัทธาค่ะ มีดอกไม้ ธูป 9 ดอกและเทียน อีก 1 เล่ม เจ้าของบล็อกทำบุญไป 20 บาท
ส่วนชุดนี้ชุดใหญ่ค่ะ มีดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าสี และน้ำมัน ชุดละ 60 บาท
ได้ดอกไม้ธูปเทียนแล้วก่อนขึ้นไปสักการะองค์ศาลหลักเมือง ต้องถอดรองเท้าก่อนนะคะ
ขึ้นไปแล้วก็เอาดอกไม้วางไว้บนโต๊ะที่เขาจัดไว้ให้ จุดธูปเทียน ปักตรงที่เขาจัดที่ไว้ให้ค่ะ
แล้วก็กลับมานั่งตรงที่นั่งที่เขาจัดไว้ให้ ตั้งนะโม 3 จบ กล่าวคำบูชาศาลหลักเมือง ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เสาหลักเมืองแกะสลักจากต้นราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นไม้มงคล ส่วนยอดสลักเป็นรูปพรหมสี่หน้า ลงรักปิดทอง ล้อมรอบด้วยเสาหลักเมืองจำลองอีก 4 เสา ตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิต สำรับต้นราชพฤกษ์ที่นำมาแกะสลักเป็นเสาหลักเมืองเดิมเป็นต้นไม้ของนายเพิง รำเพย อยู่ที่บ้านหาดหอยคล้า เลขที่ 30 หมู่ที่ 1 ต.เขาวง อ.บ้านตาขน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทำพิธีบวงสรวงและทำพิธีตัดดค่นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2539 แล้วนำไปแกะสลักที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนายช่างพรชัย วัฒนวิกย์กิจ
แผ่นหินเกรนิตตั้งอยู่บนฐาน 8 เหลี่ยมซึ่งปั้นลวดลายชั้นแรกเป็นรูปช้างอยู่ในซุ้มจำนวน 8 ตัว ลงรักปิดทอง ชั้นที่ 2 ปั้นลวดลายเป็นรูปบัวเล็บช้างลงรักปิดทอง ภายในองค์ศาลหลักเมืองตกแต่งผนังและพื้นด้วยหินอ่อนสีครีม
ชมด้านในองค์ศาลหลักเมืองกันแล้วเดินดูบริเวณรอบๆกันบ้างนะคะ บริเวณโดยรอบเป็นสนามหญ้ากว้างขวางมาก เหมาะสำหรับไปนั่งเล่นพักผ่อนหรือทำกิจกรรมกันค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วประชาชนและนักท่องเที่ยวจะไปสักการะศาลหลักเมืองกันในตอนเย็น ๆ ตอนที่เจ้าของบล็อกไปเป็นเวลาใกล้เที่ยงค่ะผู้คนก็เลยค่อนข้างบางตา เพราะอากาศร้อนมากๆ
ถ้าหากเพื่อนๆ มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็อย่าลืมแวะชมและสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีกันด้วยนะคะ ลาไปก่อนสำหรับบล็อกนี้ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น