วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กะปิคั่ว สูตรอาหารง่ายๆ อร่อยและประหยัด

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ  กลับมาพบกันใหม่อีกครั้งแล้วนะคะ   วันนี้เจ้าของบล็อกมีเมนูง่ายๆและประหยัดมาฝาก แถมอร่อยด้วยมาฝากให้เพื่อนๆลองทำกันดู   เจ้าของบล็อกได้สูตรนี้มาจากพี่คนหนึ่งที่ จ.สงขลา  เห็นเขาทำมากินที่ที่ทำงาน ลองชิมดู ก็อื้ม! อร่อยดี   เลยเอ่ยขอสูตรจากพี่เขามาลองทำบ้าง  มีสูตรกะปิคั่วสูตรนี้ไว้ไม่เสียหลายค่ะ  ยามขัดสนและเบื่ออาหาร เมนูนี้ช่วยให้รอดตายมาหลายครั้งแล้ว อิอิ  ไปดูเครื่องปรุงและวิธีทำกันเลยค่ะ







เครื่องปรุง

กะปิ                                                                  1    ช้อนโต๊ะ 
ไข่ไก่หรือไข่เป็ด                                                2    ฟอง
พริกชี้ฟ้าเม็ดเล็ก                                        10-15    เม็ด
หอมแดง                                                           3    หัว
ตะไคร้                                                              2     ต้น
พริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่ สีเขียว แดง  อย่างละ                1  เม็ด
น้ำปลาดี  น้ำตาลทราย  น้ำมันสำหรับทอด








ผักทุกชนิดล้างน้ำให้สะอาด  หอมแดงปอกเปลือกออกล้างให้สะอาดแล้วซอยบางๆ  ใบมะกรูดหั่นฝอย  ตะไคร้ซอยบางๆ  พริกชี้ฟ้าเม็ดเล็กหั่นตามภาพ  พริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่หั่นแฉลบ






ตอกไข่ใส่ชาม  ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงไปในชาม (อย่าลืมเหลือใบมะกรูดหั่นฝอยกับพริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่ที่หั่นแล้วไว้เล็กน้อยนะคะ  เอาไว้โรยหน้า)  ใช้ซ่อมตีไข่และส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี  ดูให้กะปิละลายให้หมดนะคะ  เพราะถ้ายังเป็นก้อนอยู่เวลาเคี้ยวโดนจะเค็มค่ะ เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว  ลองเอานิ้วแตะๆมาชิมดูให้รสออกเค็มเล็กน้อย  ถ้าชอบหวานปะแล่มๆเติมน้ำตาลทรายลงไปได้ค่ะ  แต่ควรให้มีรสเค็มนำ  ถ้าเติมน้ำตาลทรายลงไปใช้ซ่อมคนให้น้ำตาลละลายดีเสียก่อน ค่อยเอาลงคั่ว เวลาชิมรสอย่าให้เค็มจัดค่ะ  เพราะอาหารที่มีลักษณะแห้งๆแบบนี้รสจะเค็มขึ้นอีกเมื่อปรุงเสร็จ   จากนั้นก็เอากระทะตั้งไฟ  ใส่น้ำมันลงไป   เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้ว  เทส่วนผสมในชามลงไปในกระทะ  รอจนไข่เริ่มสุกและเริ่มจับตัวเป็นแผ่นก็ใช้ทัพพีคนเร็วๆเลยค่ะ  พอน้ำเริ่มแห้งก็คั่วไปเรื่อยๆจนแห้งได้ที่เหมือนในภาพที่ 4   ปิดไฟแล้วตักใส่จานได้เลยค่ะ






ตักใส่จาน  โรยหน้าให้สวยงามด้วยใบมะกรูดหั่นฝอยและพริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ   รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ มีผัดสดแกล้มด้วยก็จะได้คุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ค่ะ


ก่อนจากกันมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับกะปิมาฝากกันด้วยค่ะ 

- กะปิช่วยบำรุงกระดูกเนื่องจากมีแคลเชี่ยมอยู่มาก แคลเซี่ยมในกะปิจะถูกปลดปล่อยออกมา เมื่อผ่านความร้อน

- กะปิมีวิตามินบี 12   ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง

- การบริโภคกะปิที่ผ่านความร้อนช่วยป้องกันโรคฟันผุ

-  มีน้ำมันโอเมก้า 3 ชนิดเดียวกับที่อยู่ในปลาน้ำลึก ซึ่งน้ำมันชนิดนี้จัดเป็นไขมันชนิดดี

- มีวิตามินดี ที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ช่วยคลายเครียดและทำให้อารมณ์แจ่มใส

- น้ำมันโอเมก้า 3 ในกะปิลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ทำให้ไม่มีอาการเลือดหนืด ป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน  น้ำมันโอเมก้า 3  ช่วยทำให้สมองไม่เฉื่อยชา บำรุงประสาท และช่วยป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย  

การเลือกซื้อกะปิ ควรเลือกที่มีชมพูหม่นๆ หรือที่เรียกว่า "สีกะปิ" และควรเลือกซื้อกะปิที่มีเนื้อหยาบ มีจุดดำๆ เล็กๆ  หรือชิ้นส่วนของเปลือกกุ้งปะปนอยู่  ซึ่งจุดดำๆ เล็กๆเหล่านั้นก็คือตาของ"กุ้งเคย" เป็นกุ้งตัวเล็กๆที่นำมาทำกะปินั่นเอง  ไม่ควรเลือกซื้อกะปิที่บดจนละเอียดยิบและมีสีดำคล้ำๆ เพราะส่วนใหญ่กะปิเหล่านี้จะมีปลาปนอยู่ด้วย  นอกจากจะทำให้สีของอาหารไม่สวยแล้ว อาจจะมีกลิ่นคาวและมีรสเค็มจัด


สำหรับบล็อกนี้ก็คงต้องลากันเพียงเท่านี้นะคะ  ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ กลับมาพบกันใหม่คราวหน้า  สวัสดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น